บันทึกการเดินทาง ประชุมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ฯKM&IT สปสช.เขต 8
09/02/2554
ผมมีนัดกับ พขร.ล้อหมุนในช่วงเวลาตีห้า ทำให้วันนี้ผมต้องตื่นนอนเร็วกว่าปกติ แม้ว่านาฬิกาปลุกยังไม่ทำงานแต่ด้วยกลัวว่าจะพลาดเวลานัดหมายนาฬิกาชีวิตปลุกให้ผมตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่งท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าทุกวัน..
บอลและบาส สองพี่น้องซึ่งเป็น พขร.ให้ผมในวันนี้มาตรงเวลาซึ่งคำนวนจากระยะทางและเวลา คงไปถึงที่อุดรไม่น่าจะเกินแปดโมงครึ่งผมแวะไปรับอิ๊ดที่ รพ.เอราวัณเพื่อเดินทางไปด้วยกัน ทีแรกตั้งใจว่าจะไปหาอะไรกินแถวๆหนองวัวซอ และอาจจะแวะเยี่ยมทักทายปุ๊ด้วยแต่บัญเอิญว่าร้านอาหารยังเปิดบริการ จึงต้องมุ่งหน้าตรงไปจุดนัดหมาย คือ ที่ตั้งสำนักงานหลักประกันสุขภาพ เขต 8 สาขาจังหวัดอุดรธานี..
ระหว่างทางเจอรถกระบะขนของคันหนึ่ง ที่ทำให้พวกเราทั้งอึ้ง ทึ่ง เสียว..จนต้องบอกให้บาสขับรถห่างๆเพราะกลัวสภาพรถที่ดูแล้วไม่น่าจะเอามาวิ่งใช้งานได้ และก็แปลกใจที่มันขับผ่านหน้าตำรวจจราจรไปได้ต่อหน้าต่อตา...มิน่า เขาถึงตั้งชื่อหุ่นตำรวจจราจรว่า"จ่าเฉย"
แปดโมงครึ่ง พวกเรามาถึงตามเวลานัดหมาย มีรถบัสคันใหญ่จอดรออยู่ที่ด้านหน้าและทีมงานของกรุ๊ปทัวร์ที่จะทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกกำลังตรวจเช็คสัมภาระ ตัวแทนของหลายๆจังหวัดเริ่มทยอยเดินทางมาถึง มีโอกาสได้พบเจอและทักทายกับพี่ๆหลายท่านที่คุ้นเคยกัน ในส่วนทีมเมืองเลยนำทีมโดยพี่แม้วเดินทางมาถึงพร้อมๆกันและรีบรองท้องด้วยมื้อเช้าหนักๆตามสไตล์ไทเลย..
พี่รักผู้ประสานงานจาก สสจ.หนองคาย เข้ามาพูดคุยทักทายและช่วยอำนวยความสะดวกให้ผมอย่างมาก ตั้งแต่มีโอกาสได้รู้จักพี่รักเมื่อครั้งไปร่วมประชุม HOSxP ที่เชียงใหม่ด้วยกัน ผมรู้สึกได้ถึงพลังแห่งความตั้งใจในการทุ่มเททำงานของพี่รักและการดูแลเอาใจใส่น้องๆทีมแอดมินของจังหวัดหนองคายเป็นอย่างดี จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมทีม Admin ของหนองคายสามารถรวมพลังเครือข่ายกันได้อย่างยอดเยี่ยม..
หลังจากตรวจสัมภาระเรียบร้อย จึงเริ่มออกเดินทางโดยมีอาหารเช้าเป็นข้าวกล่องจากร้านอาหารที่มีสาขาอยู่ั่ทั่วประเทศไทย 7-11
การเดินทางไกลไม่มีอะไรน่าเบื่อไปกว่าการที่ต้องนั่งรถนานๆ ผมเลือกที่จะนั่งบริเวณชั้นล่างเพราะรู้สึกว่าจะเหยียดแข้งเหยียดขาได้สบายมากกว่า อีกอย่างผมไม่ค่อยชอบกิจกรรมสันทนาการบนรถมากนักผมรู้สึกว่าพวกเราประมาทกับการใช้ชีวิตมากเกินไป เคยมีคนถามความในใจของคนขับเหล่านี้นะครับ เขาบอกว่าบ่อยครั้งที่เขารู้สึกเครียดที่ต้องฟังคนแหกปากร้องเพลงหรือกินเหล้ากันบนรถในขณะที่เขาต้องใช้สมาธิอย่างมากในการประคองเจ้ารถยักษ์ใหญ่สองชั้นให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า..โชคดีที่กิจกรรมบนรถมีไม่มากนักแต่การดื่มเหล้าดูเหมือนจะเป็นวัฒนธรรมอันยอดแย่ของคนทำงานสาธารณสุขยังไม่เคยจางหายไป..ความสุขที่คุณดื่มได้ ผมว่ามันก็ใช่แต่ไม่ควรจะเป็นบนรถ
ที่พักในค่ำคืนนี้เป็นโรงแรมที่ตกแต่งในสไตล์เมืองคาวบอย เลิศหรู อลังการงานสร้าง โชดดีที่พวกเราไปถึงยังพอมีแสงให้ได้่ถ่ายรูปบรรยากาศในยามเย็นของ Panther creek ได้บ้างผมจึงไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะเก็บภาพก่อนที่แสงอาทิตย์จะลับลาาไปจากฟากฟ้า..
ห้องพักตกแต่งอย่างหรูหราตามสไตล์ของเมืองคาวบอย อย่าอิจฉานะครับถ้าผมจะบอกว่าเขาจัดให้ผมนอนคนเดียว..
มีเวลาพอที่จะได้เก็บภาพบรรยากาศอีกเล็กน้อย ค่ำคืนนี้มีมือเย็นเป็นบุพเฟ่ต์และกิจกรรมสังสรรค์กัน แต่อย่างว่าแหละครับมาไกลขนาดนี้ผมคงไม่เสียเวลาไปกับการเมาสุราหลังอาหารเป็นแน่แท้..เพราะตั้งใจว่าจะรีบนอนเพื่อตื่นเก็บภาพบรรยากาศในตอนเช้าและยังมีงานที่ผมต้องเตรียมนำเสนอในวันพรุ่งนี้..
คงเป็นเพราะตื่นแต่เช้า..ทำให้ผมรู้สึกว่าง่วงนอนน่าดู..
****************************
10/02/2554
เสียงเพลงคันทรี่เบาๆ คลอเคล้าบรรยากาศเมืองสไตล์คาวบอยอย่างนี้ทำให้ผมนึกครึ้มอกครึ้มใจอยากเป็นหนุ่มคาวบอยขึ้นมาตะหงิดๆ อย่างที่บอกแหละครับว่าโรงแรมนี้เขาจำลองที่พักเป็นเมืองคาวบอยอาคารที่พักแต่ละหลังจึงตกแต่งในสไตล์เป็นสถานที่ต่างๆในเมือง เช่น ร้านอาหาร บาร์ ร้านตัดผม โรงพยาบาล ฯลฯ และรถไฟที่ดูเหมือนจะมีที่พักภายในนั้นด้วย
การประชุมเริ่มเวลา 09.00 น.เป็นการประชุมกึ่งทางการที่ค่อนข้างสบายๆ เริ่มต้นด้วยการบรรยายจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองบัวระเหว และจบลงด้วยการเสวนาโดยมีผม อาจารย์วีระวัฒน์ จาก รพ.สารภี จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวิทยากรรับเชิญและดำเนินการเสวนาโดย อ.รังสรรค์
มื้อเที่ยงได้ลองลิ้มชิมรสสเต็ก รสชาติที่เชลล์ไม่ชวนก็ควรชิม แต่จะให้ดีถ้าได้กินสเต็กตอนที่ร้อนๆคงจะอร่อยกว่านี้..
หลังจากปิดการประชุม พวกเรารีบเก็บและเช็คเอาท์เพื่อเดินทาง จุดหมายแรกก่อนที่จะเข้าที่พักทางคณะแวะเข้าไปชมสถานที่ที่มีชื่อว่า Palio ว่ากันว่าชื่อ Palio นั้นเป็นชื่อเทศกาลขี่ม้าที่โด่งดัง ในเมืองเซียน่า ประเทศอิตาลีมีความหมายคือรางวัล ซึ่งหมายถึงว่าทางโครงการต้องการให้ Palio เป็นรางวัลกับชุมชนเขาใหญ่ เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเขาใหญ่ แรงบันดาลใจในการสร้าง Palio คงมาจาก Primo-posto ที่เป็นร้านอาหาร-ร้านกาแฟสไตล์อิตาลี ที่มีคนไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก จนรองรับไม่ไหว เลยสร้าง Palio ให้คนมาเที่ยวและทำเป็นร้านค้าให้คนมาเดินชม
ก่อนเข้าที่พักยังมีแรงที่จะไปยิงเมล็ดพันธุ์เพื่อปลูกป่าที่ทับลาน และชมความงดงามของพระอาทิตย์อัสดงในยามเย็น..
ปิดท้ายค่ำคืนนี้ที่บุไทรคันทรี่วิว กับบรรยากาศสังสรรค์ที่ม่วนซื่นด้วยการแสดงของตัวแทนจังหวัดต่างๆ แต่ผมเลือกที่จะมานั่งชมความงามยามค่ำคืนที่บ้านพักมากกว่า เวลาอย่างนี้เงียบสงบและเหมาะมากสำหรับการได้ทบทวนตัวเอง..
*****************************
11/02/2554
บ้านหลังที่ผมพักอยู่ติดกับหนองน้ำทำให้มีโอกาสเห็นนกหลายชนิด อากาศกำลังสบายๆไม่หนาวเย็นจนเกินไปนักทำให้มีโอกาสได้ยลความงามริมหนองน้ำอยู่พักใหญ่
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เก็บของและตบท้องด้วยอาหารเช้าเป็นมื้อหนัก จุดหมายปลายทางในช่วงเช้าที่วังน้ำเขียวฟลอร่า แฟนตาเซีย มหัศจรรย์งานศิลป์ ดินแดนแห่งความสุข ซึ่งมีการจัดแสดงกันมาตั้งแต่วันที่ วันที่ 20 ธันวาคม 2553 และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 งานนี้ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรมากเพราะเวลามีน้อยต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด..ซึ่งผมเองก็ไม่ยอมที่จะพลาดโอกาสเก็บรูปสวยๆมากฝาก แม้ว่าูผู้ชายกับดอกไม้จะไม่ค่อยเข้ากันก็ตามทีเถอะ..
แม้ว่าจะยังไม่ถึงเวลาหิวแต่ก็ถึงคิวที่ต้องกินอาหารในช่วงเวลาเดียวกับที่พระฉัน ทำให้แต่ละคนค่อนข้างจะอิ่มและอึดอัด เพราะอาหารเกือบ 10 รายการที่รับประทานกันแบบกินทิ้งกินเหลือ..รู้สึกว่าเป็นมื้ออาหารที่เกินความจำเป็นของร่างกายจริงๆครับ
ปิดท้ายรายการอาหารที่ภัตตาคารบัวหลวง ริมบึงแก่นนคร..เป็นมื้อสุดท้ายของการเดินทางที่อาหารเหลือบานตะไทไม่ใช่ว่าไม่อร่อยแต่กินไม่ไหวเพราะของเก่าตั้งแต่เมื่อเช้าบวกช่วงกลางวันยังย่อยไม่หมด..
ระหว่างเดินทางกลับมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกับทีมงาน สสจ.หนองคายและอาจารย์วีระวัฒน์หลายเรื่อง ในประเด็นที่เกี่ยวกับข้อมูล และการใช้โปรแกรม HOSxP ..มีประเด็นที่น่าสนใจหลายเรื่องที่คงต้องช่วยกันกลับไปคิดกันต่อ..
ผมและอิ๊ดลงรถที่บริเวณบิ๊กซีอุดรธานีเพื่อรอรถของโรงพยาบาลเอราวัณที่จะมารับพรุ่งนี้ยังมีภาระกิจสำคัญที่ต้องสอนการใช้ HOSxP PCU ที่ สสอ.เอราวัณ..อีกหนึ่งวันก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน..